วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บทความเกี่ยวกับประเภท E-commerce

บทความเกี่ยวกับประเภท E-commerce แบบ C2C 
มีด้วยกันหลายบทความดังนี้


การค้ารูปแบบ บุคคล กับ บุคคล – (C2C : Consumer to Consumer)
               เป็นการค้าและทำธุรกรรมระหว่างบุคคลกับบุคคล หรือ ระหว่างผู้ใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตด้วยกันเอง ที่ไม่ใช่รูปแบบของร้านค้าหรือธุรกิจ ซึ่งการซื้อ-ขายนี้อาจทำผ่านเว็บไซต์ที่จัดตั้งขึ้นมาเป็นการเฉพาะ อาทิ การซื้อ-ขายในรูปของการประกาศซื้อ-ขาย หรือประมูลสินค้า ที่ผู้ใช้แต่ละคนสามารถนำข้อมูลสินค้าของตนมาประกาศซื้อ-ขายไว้บนเว็บไซต์ต่างๆ เช่น www.ThaiSecondhand.com, http://www.ebay.com/

ที่มา : http://www.pawoot.com/taxonomy/term/315

........................................................................................................................................................

               C2C นั้นก็จะหมายถึง การทำธุรกิจที่ติดต่อกับโดยตรงระหว่างลูกค้ารายย่อยที่ซื้อข่ายกันเอง จุดเด่นของธุรกิจในลักษณะนี้ก็คือ แต่ละคนจะเป็นเจ้าของสินค้าและเปิดร้านค้าของตนเอง แต่ปริมาณสินค้าของตนยังน้อยอยู่ไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนทำ E-business จึงมักจะมีตัวกันเป็นกลุ่ม หรือมีตัวแทนรวบรวมเจ้าของเจ้าของสินค้ารายย่อยเหล่านี้ไว้ด้วยกัน แล้วจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้เช่น สร้างโฮมเพจให้ จัดการระบบเก็บเงิน และ ระบบส่งของให้ คล้ายๆ กับกิจกรรม เปิดท้ายขายของ ตามที่ต่างๆ นั่นเอง สำหรับตัวอย่างของระบบ C2C นี้ได้แก่ โฮมเพจของ Thai.com ที่อนุญาติให้เราเข้าไปเปิดร้านค้าย่อยบนอินเทอร์เน็ตได้
ที่มา : http://www.piya2.com.co.th/s0105/index.php?tpid=0024

........................................................................................................................................................


               ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer : C2C) หมายถึงธุรกิจระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการค้ารายย่อย อาทิ การขายของเก่าให้กับบุคคลอื่นๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต

ที่มา : http://student.swu.ac.th/sc471010436/IT.htm

........................................................................................................................................................
               C2C คือ การทำธุรกรรมของผู้บริโภคต่อผู้บริโภคด้วยกันเอง เช่น การประกาศซื้อขายสินค้ามือสองใน www.thai2hand.com การประกาศฝากขายสินค้าในเว็บประมูล เช่น www.ebay.com หรือการใช้กระทู้สนทนาตามเว็บไซต์ชื่อดังเพื่อขายสินค้า เช่น http://www.pantip.com/

               ผู้ประกอบการ SMEs ควรแยกแยะให้ได้ว่า ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่นั้น จัดอยู่ในประเภทใด ซึ่งจะทำให้ SMEs สามารถวางแผนการตลาดได้อย่างถูกต้องต่อไป ซึ่งโดยมากแล้วผู้ประกอบการ SMEs จัดอยู่ในกลุ่มประเภท B2B , B2C และ G2B เป็นส่วนใหญ่
ที่มา : mkpayap.payap.ac.th/Services/App_eMarketingforSME.doc

........................................................................................................................................................
               ผู้บริโภค กับ ผู้บริโภค (Consumer to Consumer - C2C) คือการติดต่อระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภคนั้น มีหลายรูปแบบและวัตถุประสงค์ เช่นเพื่อการติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ในกลุ่มคนที่มีการบริโภคเหมือนกัน หรืออาจจะทำการแลกเปลี่ยนสินค้ากันเอง ขายของมือสองเป็นต้น
ที่มา : http://www.thaiecommerce.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538636758&Ntype=6

........................................................................................................................................................

วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

แบบฝึกหัด

1.) ข้อมูลภายในสถาบันการศึกษาที่ท่านสังกัดอยู่มีอระไรบ้างจงยกตัวอย่างประกอบ ?


ก. รายชื่ออาจารย์ผู้สอน

ข. อัตราภาษีของรัฐบาล

ค. ข้อมูลนักศึกษา

ง. ข้อ 1 และ 3 ถูก



2.) ข้อมูลปฐมภูมิและข้อมูลทุติยภูมิ แตกต่างกันอย่างไร ?

ก. ข้อมูลปฐมภูมิเป็นการเก็บข้อมูลเชิงสถิติหรือวันค่าเฉล่ยในรอบแรกส่วนข้อมูลทุติยภูมิเป็นตัวหาค่าที่ต้องการจริงๆ เป็นข้อมูลขั้นที่สอง

ข. ข้อมูลปฐมภูมิสามารถให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่าข้อมูลทุติยภูมิ

ค. ข้อมูลปฐมภูมิใช้ภายในองค์กรทั่วไปส่วนข้อมูลทุยติยภูมิใช้อยู่ภายนอกองค์กร

ง. ข้อมูลปฐมภูมิใช้งานสะดวกและรวดเร็วกว่าข้อมูลทุติยภูมิ



3.) การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูลที่ง่ายและเป็นพื้นฐานมากที่สุด คือแบบใด มีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง

ก. Index Sequential File Structre เป็นการรวมความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลแบบสุ่มและแบบเรียงตามลำดับเข้าด้วย กัน

ข. Random File Structure เป็นการเข้าถึงข้อมูลได้โดยตรง และรวดเร็ว

ค. Sequential File Structure เป็นการอ่านข้อมูลต่อเนื่องไปเรื่อยๆตามลำดับ

ง. ถูกทั้ง 1 และ 3



4.) DBMS มีประโยชน์อย่างไรต่อการใช้งานฐานข้อมูล

ก. ทำหน้าเรียงลำดับข้อมูลต่างๆ ของฐานข้อมูล ให้ง่ายต่อการค้นหา

ข. ทำหน้าที่เปรียบเสมือนผู้จัดการและตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานกับฐานข้อมูล

ค. ทำหน้าที่ลดระยะเวลาการพัฒนาระบบงาน ที่ซ้ำซ้อนของข้อมูล

ง. ให้การรักษษความคงสภาพของข้อมูล เช่น ความถูกต้อง ความสอดคล้อง



5.) ความสามารถโดยทั่วไปของ DBMS มีอะไรบ้าง จงอธิบาย

ก. ใช้งานได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องทราบถึงโครงสร้างทางกายของข้อมูลในระดับที่ลึกมาก

ข. ระบบ DBMS จะยอมให้ผู้ใช้กำหนดโครงสร้างและดูแลรักษาฐานข้อมูลได้เป็นอย่างดี

ค. ระบบ DBMS จะสามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลในส่วนต่างๆ ตามระดับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน

ง. ถูกทุกข้อ

วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

โปรแกรมตารางคำนวณ หรือ Calc หรือ Spreadsheet

      โปรแกรมตารางคำนวณ (Calc)
โปรแกรมตารางคำนวณ หรือ Calc หรือ Spreadsheet เป็นโปรแกรมอีกหนึ่งในชุดโปรแกรมออฟฟิศทะเล 1.0 โปรแกรมตารางคำนวณนี้จะมีลักษณะการทำงานเชิงคำนวณและสามารถใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้รวมทั้งยังสามารถสร้างกราฟจากข้อมูลที่มีอยู่ได้อีกด้วย โปรแกรมตารางคำนวณ ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์หลักในการช่วยในการกรอกข้อมูลลงในช่อง ตาราง และทำการคำนวณที่เรามักเรียกว่า "แผ่นคำนวณ (Spreadsheet)" โดยหลังจากกรอก ข้อมูลแล้วเราสามารถทำการคำนวณหาผลลัพธ์ได้ทันที
นอกจากการคำนวณพื้นฐานที่สามารถทำการคำนวณข้อมูลที่มีจำนวนมาก ๆ ได้แล้ว ยังสามารถที่จะทำการแก้ไขข้อมูล ได้ง่ายซึ่งก็จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้สำหรับการคำนวณมาก ๆ เช่น วิศวกร ,นักสถิติ , นักคณิตศาสตร์ และนักบัญชี เป็นต้น
         ในการคำนวณทั่วไปแล้วโปรแกรมตารางคำนวณ ยังมีความสามารถที่จะวิเคราะห์ข้อมูล เช่นการหาผลรวม การหาค่าที่สูงสุด การหาค่าที่ต่ำสุด รวมถึงการกรอกข้อมูลเฉพาะที่สนใจ และยังสามารถนำเอาข้อมูล ที่มีอยู่มาสร้างเป็นกราฟเพื่อให้บริหารสามารถมองเห็นภาพของข้อมูล ได้ชัดเจนขึ้นจึงจะเห็นได้ว่าหลาย ๆ หน่วยงานมักจะนำ โปรแกรมประเภทตารางคำนวณ มาใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
จะวางแผนงานแต่งงาน, แผนการเกษียรอายุ, บันทึกการออกกำลังกาย, หรือบันทึกเรื่องราวของลูก - spreadsheet สามารถช่วยคุณวางแผนและจัดการได้ พร้อม template ที่ดูดีสไตล์ Apple มากกว่า 30 แบบ สำหรับใช้ในเรื่องต่างๆทั้งที่บ้าน, โรงเรียน, และที่ทำงาน โดยมีตารางที่สร้างไว้แล้ว การผูกสูตรที่คิดไว้เรียบร้อย และฟอนต์ที่เข้ากันอย่างลงตัว ทุกอย่างพร้อมหมด รอแค่คุณเลือกแบบที่ชอบจากภาพตัวอย่างใน Template Chooser แล้วทำเป็นแบบฉบับของคุณเอง

ตัวเลขที่ไม่ยุ่งยาก



            ตาราง, ชาร์ท, กราฟฟิค, และข้อความแต่ละอันใน Numbers '09 สามารถจัดวางได้อย่างอิสระ โดยจะเลื่อนไปวางไว้ตรงไหนในหน้าก็ได้ เพราะเมื่อขนาดของตารางถูกปรับ ทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ก็จะถูกปรับให้ลงตัวได้เอง ทำกี่ตารางก็ได้เท่าที่อยาก จะเปลี่ยนฟอนต์, สี, สไตล์, หรือเปลี่ยนกรอบ ก็ทำได้ไม่ยากด้วยเครื่องมือกราฟฟิค ที่มีเส้นไกด์ให้ตำแหน่งตรงกัน และเครื่องมือในการวัด ทำให้การทำ spreadsheet กลายเป็นเรื่องของการสร้างสรรค์ และเข้าใจง่าย




  
ใครๆก็ผูกสูตรได้       ใครๆก็ผูกสูตรได้กับสูตรเข้าใจง่ายจากสูตรคำนวณที่ดูยากๆ Numbers ทำให้กลายเป็นเรื่องเรียบง่าย แค่เลือกจากกว่า 250 ฟังก์ชั่น (ที่มีกว่า 90 ฟังก์ชั่นใหม่) โดยใช้หน้าต่างเลือกหาที่มีคำอธิบายพร้อม และ Tooltips ที่บอกความหมายย่อของตัวแปรแต่ละตัวตรงลูกศรเม้าส์ และยังใส่ภาพคู่ไปกับตัวแปรได้ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน และด้วย Formula List View ทำให้สามารถดูทุกสูตรในเอกสารได้พร้อมๆกัน จะสร้างตาราง, สร้างชาร์ท, ใส่รูป, หรือกราฟฟิค ก็สามารถทำได้ด้วยการคลิกบน Toolbar ไม่กี่ครั้ง หรือเลือกหาฟอนท์ และเปลี่ยนสไตล์ตัวอักษรจาก Format Bar


ตารางฉลาดๆ
            ตารางฉลาดๆอัจฉริยะในทุกช่องNumbers ทำหน้าที่เสมือนพื้นที่กว้างๆ ที่ให้คุณจัดวางตารางได้อย่างอิสระ จะย่อ-ขยาย จะเคลื่อนย้าย หรือกระทั่งย้ายข้ามหน้า ก็สามารถทำได้โดยไม่กระทบกับสิ่งที่อยู่รอบๆ โดยยังคงการคำนวณที่อยู่ในตารางไว้เหมือนเดิม นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ข้อมูลข้ามตารางกันได้อีกด้วย Numbers ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล โดยมี sliders, checkbox, steppers และ pop-up list ที่ช่วยในการหาผลลัพธ์และลองการคำนวณแบบอื่น พร้อมกับความสามารถในการอัปเดทผลลัพธ์และชาร์ทต่างๆ ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล





      ** ในกรณีที่มีข้อมูลมากๆ Numbers ทำให้คุณสามารถสร้างหมวดหมู่โดยดูจากลักษณะของข้อมูลที่อยู่ในคอลัมน์นั้นๆ แล้วสร้างแถวแนวนอนเพื่อสรุปแต่ละหมวดหมู่โดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถเปิดปิด, ย้ายตำแหน่ง และจัดการหมวดหมู่ได้ตามใจ และยังมีปุ่ม Reorganize ใหม่ ที่สามารถเลือกดูข้อมูลตามหมวดหมู่ และจัดลำดับของข้อมูลใหม่ได้อย่างหลากหลาย

ชาร์ทที่น่าประทับใจชาร์ทที่น่าประทับใจเกินกว่าความเป็นชาร์ทเปลี่ยนข้อมูลดิบมาเป็นชาร์ท 2D หรือ 3D ทั้งแบบแท่ง, กราฟเส้น, แสดงเป็นพื้นที่, หรือแบบพายชาร์ท โดยสามารถรวมชาร์ทหลายแบบเข้าด้วยกัน, สร้างชาร์ทแบบสองแกนที่มีหลาย scale, และแสดง trendline และ error bar นอกจากนั้น ชาร์ทใน Numbers ยังสามารถลิงค์เข้ากับไฟล์เอกสารใน Pages หรือพรีเซนท์เทชั่นใน Keynote ได้อีกด้วย





ที่มา     http://www.apple.com/th/iwork/numbers/
            http://www.opentle.org/node/3944

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

จอภาพ (Monitor)

          จอภาพ เป็นอุปกรณ์ที่รับสัญญาณจากการ์ดแสดงผล มาแสดงเป็นภาพบน จอภาพ ซึ่งเทคโนโลยีจอภาพในปัจจุบันคงจะเป็น จอภาพแบบ Trinitron และ Flat Screen(จอแบน)ไม่ว่าจะเป็น CRT(moniter ทั่วไป) หรือ LCD (จอที่มีลักษณะแบนเรียบทั้งตัวเครื่อง) จอแบนจะมีประสิทธิภาพ ในการแสดงผลมากกว่าจอปกติ เพราะสามารถลดแสดงสะท้อนได้ดี กว่าทำให้ไม่เกิดอาการเมื่อยล้า และปวดตาเมื่อต้องทำงานนาน ๆ แต่ ราคาของจอแบนยังมีราคาสูงกว่า จอปกติพอสมควรทำให้ยังไม่เป็น ที่นิยมมากนัก แต่ในอนาคตอันใกล้จอแบนคงจะมีราคาที่ถูกกว่านี้ และเป็นมาตรฐานของจอภาพคอมพิวเตอร์ในอนาคต การที่ผู้ใช้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ปรากฏบนจอภาพได้นั้น เป็นเพราะฮาร์ดแวร์อีกตัวหนึ่ง ที่ทำงาน ควบคู่กับจอภาพเรียกว่า การ์ดสำหรับแสดงผลจอภาพ (Display Adapter Card) เป็นวงจรภายใน เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำงานร่วมกับจอภาพ


                จำนวนสีที่สามารถแสดงบนจอภาพได้นั้นเป็นตัวกำหนดว่าภาพบนจอจะมีสีสรรสมจริงเพียงใดโดยจอ VGA (Video Graphics Array) แสดงผลในโหมดความละเอียด 640X480 พิกเซล จอ SVGA (Super Video Graphics Array) แสดงผลในโหมดความละเอียด 800X600 พิกเซล จอภาพในปัจจุบันเกือบทั้งหมดใช้จอระดับนี้แล้วจอภาพที่ แสดงจำนวนสี 65,536 หรือ 16 บิตสี จะแสดงความสมจริง
ได้ดีพอสมควร เหมาะสำหรับงานการฟฟิก มัลติมีเดีย และสิ่งพิมพ์ ส่วนจอภาพที่แสดงจำนวนสี 16,777,216สีจะให้สีสมจริงตามธรรมชาติ สีระดับนี้เหมาะสำหรับงาน
ตกแต่งภาพและงานสิ่งพิมพ์ระดับสูง



              LCD ย่อมาจาก Liquid Crystal Display ซึ่งหมายความว่า มอนิเตอร์แบบนี้ เป็นแบบผลึกเหลว ผลึกเหลวนี้เป็นสสารที่แทบจะเรียกได้ว่าโปร่งใส และมีคุณสมบัติ ก้ำกึ่งระหว่างของแข็ง และของเหลว คือว่า เมื่อตอนอยู่เฉยๆ เนี่ย ผลึกเหลวจะอยู่ในสถานะ ของเหลว แต่เมื่อมีแสงผ่านมา ก็จะเกิด การจัดเรียงโมเลกุลใหม่ ผลึกเหลวก็จะมีคุณสมบัติ เป็นของแข็งแทน ส่วนแสงที่ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว ก็จะกลับมามีคุณสมบัติเป็นของเหลว เหมือนเดิม


         สำหรับปัจจุบันนี้ มอนิเตอร์ LCD นั้นใช้กันอย่างแพร่หลายในฐานะที่เป็นมอนิเตอร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ แบบพกพาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โน้ตบุ๊ค และ PDA (พวกเครื่องปาล์ม)รวมไปถึงก้าวมามีบทบาทแทนที่มอนิเตอร์แบบ


CRT (Cathode-ray tube)ของเครื่องตั้งโต๊ะที่เคยใช้กันแล้ว ในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็นสองแบบใหญ่ๆ ก็คือ


Dual-Scan Twisted Nematic (DSTN)


Thin Flim Transistor (TFT)


จอ LCD แบบ TFT หรือ Thin Film Transistor นั้นถูกพัฒนาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง ของ จอ LCD แบบ DSTN โดยเป็นแบบ Active Matrix ทำให้มีการตอบสนอง ต่อการ เปลี่ยนแปลงของภาพที่เร็ว และมีความคมชัดขึ้น รวมทั้งมอนิเตอร์แบบ TFTจะมีรูปร่างบางกว่า มอนิเตอร์แบบ LCDปกติ จึงทำให้มันมีน้ำหนักเบากว่า และอัตรารีเฟรชของภาพก็ใกล้เคียง กับมอนิเตอร์แบบCRT เนื่องจากว่ากระแสไฟฟ้านั่นวิ่งเร็วกว่าจอ LCD แบบ DSTN






ข้อควรจำ


      ใครที่ชอบเปิดคอมฯ และมอนิเตอร์ไว้เป็นเวลานานๆ โดยไม่ได้ใช้งาน อย่าลืมใช้ screen saver เพราะการที่ ลำแสง อิเล็คตรอนถูกยิงออกมาเพื่อ ฉายภาพเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีกเรื่อยๆ จะทำให้เจ้าสารเรืองแสงที่เคลือบอยู่ที่ผิวจอ เสื่อมได้ การใช้ screen saver ก็จะทำให้ลำแสงที่ยิงออกมาเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ฉายซ้ำอยู่ที่เดียวครั


วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553